“ฤดูฝุ่น” ฤดูกาลที่ยาวนานที่สุดในประเทศ

Green News“ฤดูฝุ่น” ฤดูกาลที่ยาวนานที่สุดในประเทศ
ฤดูฝุ่น

“ฤดูฝุ่น” ฤดูกาลที่ยาวนานที่สุดในประเทศ

ปัญหา PM 2.5 ก็เหมือนหนังม้วนเดิม ที่ในทุกๆ ปีของเดือนตุลาคม ไปจนถึงเดือนเมษายนของปีถัดไป จะมีสภาพอากาศที่เลวร้าย ส่งผลต่อสุขภาพในระยะยาว ซึ่งเราจะเรียกช่วงนี้ว่า “ ฤดูฝุ่น ” เป็นฤดูที่ 4 ของประเทศไทยที่ยาวนานกว่าฤดูอื่นๆ และไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้นนับวันยิ่งทวีความรุนแรง ในหลายพื้นที่มีค่าเกินมาตรฐาน เป็นพล็อตเรื่องเก่ากลับมา Remake ซ้ำๆ แต่เปลี่ยนตอนจบให้เลวร้ายลงกว่าเดิม

ฤดูที่ยาวนานที่สุดในประเทศ

ฤดูฝุ่น (PM 2.5) ปัญหาที่ไม่ได้รับการแก้ไข

หากมองย้อนไปเมื่อหลายปีก่อนช่วงปลายฝนต้นหนาวแบบนี้ ทุกคนคงจะได้สัมผัสกับบรรยากาศและอากาศที่เริ่มเย็นลง มีหมอกสวยๆ เหมือนที่ผ่านมา แต่ใครจะไปคิดล่ะว่า.. ตั้งแต่ปี 2562 เป็นต้นมา เราจะไม่ได้สัมผัสบรรยากาศดีๆ แบบนี้อีกแล้ว เมื่ออากาศปิด ฝุ่นที่เราเห็นว่าเป็นหมอกแท้จริงแล้วคือ PM 2.5 ภัยเงียบจากฝุ่นละอองขนาดเล็ก มีเส้นผ่าศูนย์กลางน้อยกว่า 2.5 ไมครอน ที่ลอยขึ้นมาปกคลุมอย่างหนาแน่นและส่งผลกระทบรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ  

แน่นอนว่าวิกฤตของฤดูฝุ่นที่หวนกลับมาของประเทศไทย ประชาชนจะให้ความสนใจเป็นอย่างมาก นอกจากสุภาพแย่ ยังทำให้การท่องเที่ยวเสียอีกด้วย ความหวังเดียวของประชาชน คือ ให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องแก้ไขปัญหา PM 2.5 นี้ให้เร็วที่สุดและได้ผลในระยะยาว ไม่ใช่เพราะกระแสและแก้ไขประเดี๋ยวประด๋าว อย่างกรุงเทพฯ เอง เป็นถึงศูนย์กลางทางเศรษฐกิจก็ยังได้รับการแก้ปัญหาได้ไม่ดีเท่าที่ควร นับประสาอะไรกับหลายจังหวัดในภาคเหนือ ที่ต้องเผชิญกับค่าฝุ่นที่แย่ติดอันดับโลก

ต้นตอหลักของการเกิด PM 2.5 คืออะไร?

ปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดฝุ่นขนาดเล็กมากมายมหาศาลลอยอยู่บนอากาศเช่นนี้ เพราะมีทั้งการเผาไหม้ในที่โล่ง,ไฟป่า, การก่อสร้าง, อุตสาหกรรม และการจราจรที่ติดขัด หรือแม้กระทั่งการใช้ชีวิตประจำวัน อย่างการสูบบุหรี่ หรือจุดธูปก็ล้วนแต่ทำให้เกิดมลพิษทางอากาศทั้งนั้น

ต้นตอหลักของการเกิด PM2.5

สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ tokuyo

เมื่อต้นปีที่ผ่านมา สถานการณ์คุณภาพอากาศในพื้นที่ภาคเหนือของประเทศไทยมีสภาพอากาศย่ำแย่ติดอันดับ 1 ของโลกอยู่หลายครั้ง โดยต้นตอที่ทำให้สถานการณ์รุนแรงมากขนาดนี้ นั่นก็คือ การเผาเพื่อขยายพื้นที่เกษตรกรรมอย่างไม่มีความความรับผิดชอบ การเผาเหล่านี้ไม่ใช่แค่เผาในไทยเท่านั้น แต่เป็นการเผาเพื่อทำ “ธุรกิจการเกษตร” ในประเทศเพื่อนบ้านอีกด้วย

 

จากข้อมูลการนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เพิ่มขึ้นจากประมาณ 770 ล้านบาท ในปี 2558 เพิ่มขึ้นเป็น 14,325 ล้านบาทในปี 2565 และพบข้อตกลงการซื้อขาย โดยมีภาษีนำเข้าเพียงแค่  0% จาก ครม. ทำให้ปัญหา PM. 2.5 ลุกลามไประดับภูมิภาค เพราะการเผาที่เกิดขึ้นอย่างมหาศาลในประเทศเพื่อนบ้านนั้นต้องแลกมาด้วยอากาศบริสุทธิ์และอายุไขของคนไทย

 

วิกฤตครั้งนี้ประชาชนได้ทำแทบทุกวิถีทางที่จะทำให้ตัวเองได้หายใจอย่างสะอาด ทั้งใส่แมส ซื้อเครื่องฟอกอากาศ ไปจนถึงการผลิตเครื่องดูดอากาศใช้เอง เพื่อหาพื้นที่ปลอดภัยจากค่าฝุ่นที่วิกฤต รวมถึง “เครือข่ายอากาศสะอาด”  ที่รวบรวมนักวิชาการและกลุ่มจิตอาสาที่ไม่ได้นิ่งเฉยกับปัญหาครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้น มาพยายามหาทางร่วมกันแก้ไขปัญหาริเริ่มจัดทำร่าง “พ.ร.บ.อากาศสะอาด” เพื่อสิทธิในการหายใจของประชาชน

จากหลายๆ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในปัจจุบัน “ฤดูฝุ่น” ที่กำลังจะเกิดขึ้นอีกไม่กี่วันข้างหน้า จะทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ ถ้าในอนาคตสิ่งเหล่านี้ยังคงถูกเมินเฉยและละเลยจากผู้คนที่อาศัยอยู่ในสังคม สุดท้าย..อากาศที่เคยปลอดโปร่ง ท้องฟ้าที่เคยสดใส คงจะเป็นเพียงแค่ภาพจำในอดีต

 

ขอบคุณข้อมูลจาก : thairath, thematter

สนใจรับบริการ ติดตั้งผ้าม่าน วอลล์เปเปอร์ ติดต่อวัดพื้นที่ประเมินราคาฟรี! โทร icon tel 02-750-2563

ติดตามกิจกรรมการเที่ยวสนุก อย่างมีคุณค่า “เพื่อบ้านหลังใหญ่” ในแต่ละเดือน ของพวกเรา… เจ้ามดตัวเล็ก (แต่ยิ่งใหญ่สำหรับพวกเรา) กับ กิจกรรม Infinity Design for Green หรือดูรายละเอียดเกี่ยวกับกิจกรรมทั้งหมดของพวกเราได้ที่ www.InfinityDesign.in.th/ ForGreen

บ้านจะสวยได้อย่างไร … ?
ถ้าบ้านหลังใหญ่ยังถูกทำลาย
author avatar
Theeraporn Content Writer
ไอเดียรังสรรค์ของแต่งบ้านสวย ๆ ที่สามารถทำได้เองง่ายๆ ด้วยของเหลือใช้ภายในบ้าน