ย้อนเวลาชม…6 ที่ท่องเที่ยวช่วงฤดูหนาว ก่อนมีฝุ่น PM2.5
ในช่วงเทศกาลสิ้นปีแบบนี้ เหล่าน้องกรีนจะพาเพื่อนๆ นั่งไทม์แมชชีน ย้อนเวลากลับไปดูสถานที่ท่องเที่ยวในช่วงพฤศจิกายน-มีนาคม ของเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ว่ามีที่ไหนบ้างที่มีทัศนียภาพที่สวยงาม อากาศไร้หมอกควันและฝุ่น PM 2.5 มาดูกันเล้ย
นั่งไทม์แมชชีนชมสถานที่ท่องเที่ยว
ภูชี้ฟ้า จ.เชียงราย ดินเเดนเหนือสุดในของประเทศไทย หากมาสัมผัสที่นี่จะสามารถมองออกไปเห็นถึงสปป.ลาวเลยทีเดียว แถมเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกอันสวยงามอันดับต้นๆ ของประเทศอีกด้วย
แต่เมื่อ 24 มี.ค.2566 มีเหตุการณ์ไฟไหม้ป่าจากฝั่งเมียนมาลามหนัก ส่งผลค่าฝุ่น PM 2.5 เกินมาตรฐาน 6 เท่าสูงถึง 310 มคก.ต่อลบ.ม.กระทบสุขภาพของประชาชนในพื้นที่
อ.ปาย เมืองเล็กๆ ในจ.แม่ฮ่องสอน ที่มีวิถีชีวิตที่เรียบง่าย ถูกโอบล้อมไปด้วยขุนเขาสูง และเป็นรอยต่อชายแดนไทย – พม่า ในฤดูหนาวสถานที่แห่งนี้จะปกคลุมไปด้วยอากาศเย็นๆ หมอกสีขาว และละอองน้ำค้างจางๆ
แต่เมื่อปี 2566 อ.ปาย ได้ถูกจัดอยู่ใน 5 อันดับแรกของพื้นที่ที่มีฝุ่นพิษ PM2.5 แย่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ดอยอินทนนท์ จ.เชียงใหม่ เป็นยอดดอยที่สูงที่สุดของประเทศ โดยมีความสูง 2,565 เมตรเหนือน้ำทะเล หากใครไปท่องเที่ยวสัมผัสหนาวก็มีสิทธิได้ยลโฉม น้ำค้างแข็งที่เกาะตามใบหญ้า หรือที่เรียกว่า “แม่คะนิ้ง”
เมื่อ 23 มีนาคม 2566 ฝุ่น PM2.5 ในจังหวัดเชียงใหม่รั้งอันดับ 2 เมืองคุณภาพอากาศแย่ที่สุดในโลก
เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ สถานที่ที่มีอากาศเย็นสบายเกือบตลอดทั้งปี และมีทัศนียภาพทราสวยงาม ไม่ต้องพูดถึงเลยว่าหน้าหนาวจะอากาศดีขนาดไหน เพราะที่นี่เป็นสถานที่ยอดฮิตสถานที่ท่องเที่ยวในช่วงหน้าหนาวเลยล่ะ
เมื่อ 5 มี.ค. 66 บนเทือกเขาภูทับเบิกได้เกิดไฟป่าลุกไหม้ติดต่อกันเป็นเวลาหลายวันทั้งกลางวันและกลางคืน คาดว่าน่าจะเกิดจากฝีมือของมนุษย์
ภูทับเบิก จุดที่สูงที่สุดของ จ.เพชรบูรณ์ สถานที่ที่มีทะเลภูเขารายล้อม และสามารถชม ทะเลหมอก ได้ในยามเช้าพร้อมกับอากาศบริสุทธิ์ นอกจากนี้ยังเป็นที่ตั้งของหมู่บ้านชาวไทยภูเขาเผ่าม้ง และ ไร่กะหล่ำปลีที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ
จากสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ที่ทวีความรุนแรงจนส่งผลต่อสุขภาพของประชาชน จ.เพชรบูรณ์ได้ออกประกาศห้ามเผาโดยเด็ดขาด ตั้งแต่วันที่ 16 ก.พ. – 16 เม.ย.2566
ดอยอ่างข่าง จ.เชียงใหม่ สถานที่ตั้งของสถานีเกษตรหลวงอ่างขาง ที่มีโครงการวิจัยผลไม้ ดอกไม้เมืองหนาว และยิ่งไปกว่านั้นที่นี่..มีอากาศหนาวเย็นตลอดปี โดยเฉพาะในช่วงเดือนธันวาคม-มกราคม มีโอกาศได้ชมแม่คะนิ้งอีกด้วย
ในปี 2566 เดือนกุมภาพันธ์ – เมษายน จังหวัดเชียงใหม่มีค่าเฉลี่ยฝุ่นพิษ PM2.5 รายเดือนเพิ่มจาก 53.4 เป็น 106.4 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
ณ ปัจจุบัน สถานที่เหล่านี้ยังคงสวยงามเหมือนเดิม แถมยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกเพิ่มมากขึ้น แต่น่าเสียดายที่ทัศนวิสัยอันสวยงามเหล่านี้ได้มีมลพิษตัวร้ายอย่าง PM 2.5 สอดแทรกทุกอนู ในปี 67 จึงต้องมาลุ้นกันว่าสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 จะรุนแรงมากน้อยแค่ไหน..
ย้อนเวลา..ชมการเกิด PM 2.5
และหนทางการแก้ไขปัญหาฝุ่นพิษกันเถอะ!
และแล้วทัวร์นั่งไทม์แมชชีย้อนเวลาก็ต้องจบลง.. น้องกรีนและทีมงาน INFINITY DESIGN ยังขอยืนหยัดเป็นส่วนหนึ่งที่เดินหน้าสร้างความตระหนักรู้เรื่องสิ่งแวดล้อม และเดินทางทำกิจกรรม Infinity Design for GREEN พร้อมกับแนวคิดหลักของเราที่ว่า “บ้านจะสวยได้อย่างไร … ? ถ้าบ้านหลังใหญ่ยังถูกทำลาย” เพื่ออากาศที่สะอาดและอนุรักษ์ธรรมชาติให้คงอยู่ในบ้านหลังใหญ่อีกนานเท่านาน ดูรายละเอียดเกี่ยวกับกิจกรรมทั้งหมดของพวกเราได้ที่ www.InfinityDesign.in.th/ForGreen