Modern Style ผ้าม่าน ฟิล์มกรองแสง @ Lakewood บางนา
ผลงานการตกแต่งบ้านหลังใหญ่ ในโครงการLakewood บางนา บนพื้นที่ 2 ไร่กว่าๆ โดยทีม Infinity Design ตกแต่งในสไตล์ Modern ด้วย “ม่านม้วนไฟฟ้า” ระบบมอเตอร์ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ และ “ฟิล์มกรองแสง” สะท้อนความร้อนได้ดี
ผลงานการตกแต่งบ้านด้วยม่านม้วน
หมู่บ้านเลควูด (Lake Wood) เป็นบ้านติดสนามกอล์ฟ เลควูดคันทรี่คลับ (Lakewood Country Club) อยู่บางนาตราด กม. 18 ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ และห้างสรรพสินค้า Market Village Suvarnabhumi และ Mega Bangna ซึ่งจะเป็นที่ดินเปล่า ให้ลูกค้าสร้างเองตามแบบที่ต้องการ
บ้านที่เราจะพาไปชมผลงานการตกแต่งเป็นบ้านสร้างเอง ตั้งอยู่ในพื้นที่ 2 ไร่กว่าๆ บรรยากาศรอบด้านจะเห็นวิวสนามกอล์ฟ Lakewood Country Club ส่วนหลังบ้านจะติดริมน้ำ เป็นทำเลที่ดีมากๆ ส่วนตัวบ้านทั้งภายนอกและภายในมีความทันสมัย เมื่อติดตั้ง ม่าน (Blinds) นอกจากจากจะช่วยในเรื่องของการกันแสงแดดแล้ว ยังทำให้บรรยากาศภายในห้องให้น่าอยู่ยิ่งขึ้นอีกด้วย
ก่อนที่เราจะเข้าบ้านหลังใหญ่จะต้องผ่านเรือนรับรองแบบ “Glass house” รับลม ชมธรรมชาติ ซึ่งจะเป็นห้องกระจกที่ทำให้โปร่งโล่งไม่ทึบแสง สามารถมองเห็นบรรยากาศภายนอกผ่านห้องกระจก เน้นการโชว์ความมีเสน่ห์ของภายในการตกแต่ง
เรือนรับรองนี้ตอนแรกจะตกแต่งด้วย ม่านม้วน (Roller Blinds) แต่ช่องแอร์ขวางอยู่ที่หลุมฝ้าจึงติดม่านม้วนไม่ได้ ซึ่งจะไม่ติดอะไรเลยก็คงไม่ได้ เพราะห้องนี้จะร้อนมาก โดนแดดเต็มๆ ดังนั้นจึงเปลี่ยนมาติด ฟิล์มอาคาร (Building Film) แทน เพื่อสะท้อนความร้อนออกไป ให้เปิดแอร์ได้เย็นฉ่ำขึ้น
ผ่านเรือนรับรองเข้ามาจะเจอกับบ่อปลาคาร์ฟขนาดใหญ่อยู่ตรงกลางด้านหน้าบ้าน ซึ่งแขกไปใครมาจะต้องเห็นเป็นสะดุดตา นอกจากทำให้ตัวบ้านดูสวยงามมีชีวิตชีวาขึ้นมาได้แล้ว การเลี้ยงปลาคาร์ฟยังช่วยเสริมฮวงจุ้ยบ้าน ให้เจริญก้าวหน้าด้านธุรกิจ การค้าขายร่ำรวย
อ่านต่อ : 4 ปลามงคลเลี้ยงเสริมบารมี ชีวิตดี…ธุรกิจปัง ตังค์ก็เยอะ
เปิดประตูเข้ามาจะเจอกับมุมนั่งเล่นขนาดใหญ่ รองรับเพื่อนๆ หรือสมาชิกในบ้านได้เป็นสิบๆ คน ตกแต่งภายในสไตล์โมเดิร์น เป็นการตกแต่งที่เรียบง่ายและดูดี ถือว่าเป็นสไตล์อมตะเลยก็ว่าได้ สวยได้นาน ไม่น่าเบื่อ แถมยังตกแต่งง่ายและสามารถปรับใช้กับเฟอร์นิเจอร์ได้อย่างหลากหลาย
โดยบานหน้าต่างในมุมนั่งเล่นจะตกแต่งด้วย ม่านม้วน (Roller Blinds) เพราะมีดีไซน์เรียบง่าย แมทช์กับเฟอร์นิเจอร์ได้หลากหลายสไตล์ เหมาะกับห้องที่ต้องการความทันสมัย โปร่งโล่ง ติดแล้วยังเหลือพื้นที่ใช้สอยได้กว้างมากขึ้นด้วย
สำหรับ ม่านม้วน (Roller Blinds) ที่ใช้ตกแต่งในมุมนี้ทางทีม Decorista แนะนำเป็นแบบ ม่านม้วน แบบกรองแสง (Roller Blinds Sunscreen) สามารถมองเห็นกันได้ทั้ง 2 ด้านในเวลาที่แตกต่างกัน ในเวลากลางวันผู้อยู่อาศัยภายในบ้านจะมองเห็นภายนอก คนภายนอกจะมองไม่เห็นภายใน ส่วนในเวลากลางคืนจะตรงกันข้ามกัน เหมาะสำหรับนำมาตกแต่งในจุดที่ต้องการมองเห็นวิวภายนอกได้แม้ยังปิดม่านอยู่
มุมรับประทานอาหารก็เช่นกัน ตกแต่งด้วย ม่านม้วน (Roller Blinds) เพราะเป็นชนิดม่านที่ไม่อมกลิ่น, ไม่เก็บฝุ่น และทำความสะอาดง่าย สามารถใช้ไม้ขนไก่ปัดฝุ่นจากตัวม่านม้วนได้เลย หากมีคราบสกปรกฝังแน่น แค่ใช้ผ้าชุบน้ำเล็กน้อยแล้วเช็ดทำความสะอาดจุดที่เป็นคราบสกปรกเบาๆ จากนั้นใช้ผ้าแห้งมาเช็ดอีกรอบ หรือจะนำเครื่องดูดฝุ่นมาดูดสิ่งสกปรกออกก็ได้เหมือนกัน
ต่อมาถือว่าเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของบ้านเลยก็ว่าได้ เป็นห้องอเนกประสงค์ มีทั้งมุมนั่งเล่น, มินิบาร์, โต๊ะสนุกเกอร์ รวมความสนุกสนานบันเทิงอย่างครบครัน สามารถเข้า-ออกได้ 2 ทาง และสามารถมองวิวสวนได้รอบด้าน
ห้องอเนกประสงค์นี้ถูกตกแต่งบานหน้าต่างและประตูด้วย ม่านม้วน แบบผ้าทึบแสง (Roller Blinds Blackout) ซึ่งจะมีคุณสมบัติป้องกันแสงได้ 100% ทำให้แสงไม่ส่องเข้ารบกวนเวลาดูทีวีเลย
โดยห้องอเนกประสงค์นี้จะเป็น ม่านม้วนไฟฟ้า ระบบมอเตอร์ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ สามารถเปิด-ปิดม่าน โดยใช้รีโมทคอนโทรล ไม่ต้องเสียเวลาดึงขึ้น-ลงหลายๆ ครั้ง เพียงกดครั้งเดียวม่านม้วนจะขึ้น-ลงอัตโนมัติ
ส่วนใต้โถงบันไดได้ทำเป็น “ห้องเก็บไวน์” (Wine Cellar) ถือเป็นอีกหนึ่งห้องที่สำคัญภายในบ้านของนักดื่มไวน์และนักสะสมไวน์ ซึ่งในนั้นจะมีเครื่องดื่มที่มีราคาค่อนข้างสูงไว้หลายขวดเลยทีเดียว และไวน์ยังถือเป็นสมบัติอันล้ำค่าของเหล่านักคลั่งไคล้ในรสชาติด้วย
ขึ้นมาที่ชั้น 2 ที่บริเวณมุมนั่งเล่นและอ่านหนังสือ ตกแต่งด้วย ม่านม้วน แบบกรองแสง (Roller Blinds Sunscreen) ในช่วงเวลากลางวันสามารถมองเห็นริมน้ำที่ไหลผ่าน กับสนามกอล์ฟที่มีหญ้าเขียวขจีผ่านใบม่านม้วนได้เลย โดยไม่ต้องดึงม่านม้วนขึ้นไป
ทั้ง 2 จุดนี้จะเป็น ม่านม้วนไฟฟ้า ระบบมอเตอร์ สั่งการด้วยรีโมท ซึ่งการสั่งงานจะต้องอยู่ในระยะรัศมีที่สัญญาณของรีโมทไปถึง รวมถึงการหาที่เก็บรักษารีโมทให้อยู่ในที่ที่สะดวกแก่การใช้งาน หากต้องสั่งการผ่านแอพพลิเคชั่นบนโทรศัพท์มือถือที่เป็นสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตก็ทำได้เพียงติดชุดอุปกรณ์เพิ่มเติม
ส่วนมุมรับประทานอาหารและห้องพระที่ชั้น 2 ตกแต่งด้วย ม่านม้วน แบบกรองแสง (Roller Blinds Sunscreen) เช่นกัน แต่จะเป็นระบบโซ่วน เพราะ 2 ห้องนี้ไม่ได้เข้ามาใช้งานบ่อยมากนัก มีจำนวนหน้าต่างไม่ค่อยเยอะ และขนาดไม่ใหญ่มาก พอที่จะใช้กำลังดึงโซ่ใช้งานได้สบายๆ
โทนสีของม่านม้วน จะเป็นสีขาวสี ดูสบายตา ได้ความรู้สึกสดชื่นโปร่งโล่ง ผ่อนคลาย อีกทั้งสีขาวเป็นโทนสีที่สามารถแต่งบ้านได้ง่ายมาก สีขาวสามารถจับคู่สีได้ทุกเฉด เข้ากับทุกๆสี เป็นสีที่แต่งบ้านง่ายที่สุดแถมได้ความเป็นโมเดิรน์อีกด้วย
ถัดมาที่ห้องนอนใหญ่ มีบานหน้าต่างเต็มๆ ทั้ง 3 ด้าน ถูกตกแต่งด้วย ม่านม้วน แบบผ้าทึบแสง (Roller Blinds Blackout) สีขาว ซึ่งไม่ว่าจะเป็นสีไหนก็มืดสนิดแม้ในวันที่แสงแดดแรง แต่ก็มีข้อเสียอยู่นิดหน่อยตรงที่ใบของม่านม้วนไม่สามารถทำได้กว้างเท่ากับบานหน้าต่างใหญ่ จึงทำให้มีช่องแสงระหว่างชุดที่ต่อกัน
ในส่วนของห้องนอนใหญ่นี้ตกแต่งด้วย ม่านม้วน แบบผ้าทึบแสง (Roller Blinds Blackout) นอกจากจะกันแสงได้ 100% แล้ว ยังมีคุณสมัติเคลือบสารกันน้ำ และกันเชื้อราด้วย เป็นสินค้าที่นำเข้าจากไต้หวัน
ห้องนี้เป็น ม่านม้วนไฟฟ้า ระบบมอเตอร์ สั่งการด้วยรีโมททั้งหมด ซึ่งจะขึ้น-ลง พร้อมๆ กัน ดูทันสมัย เมื่อใบม้วนเก็บขึ้นบนสุดแล้วจะมีขนาดเล็ก ทำให้ประหยัดพื้นที่ ดูโล่งโปร่ง สามารถเห็นวิวได้แบบเต็มๆ
มอเตอร์ของม่านม้วนจะแตกต่างกับมอเตอร์ที่ใช้กับม่านจีบ หรือม่านลอน ซึ่งมอเตอร์ของม่านม้วนจะมีขนาดเล็กกว่ามากๆ ดูเรียบร้อย ไม่เกะกะสายตา ปัจจุบันเริ่มนิยมม่านม้วน ระบบไฟฟ้ากันมากขึ้น ช่วยอำนวยความสะดวกสบายให้กับชีวิตของคุณได้
ห้องนอนเล็กตกแต่งด้วย ม่านม้วน แบบผ้าทึบแสง (Roller Blinds Blackout) สีขาว เป็นสีกลาง หรือ Neutral จะกลมกลืนไปกับผนัง มองแล้วสบายตา ถ้าเป็นผ้าม่านจะอึดอัดอยู่ไม่น้อย และเกะกะ เสียพื้นที่ใช้สอยด้วย
ติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวและอัพเดทผลงานการตกแต่งบ้าน แต่งคอนโด ได้ทุกวัน ที่ InfinityDesign.in.th หรืออีกหนึ่งช่องทางง่ายๆ จากทางแฟนเพจ เพียงกด ที่นี่
ผลงานจากโครงการนี้ยังมีอีก!ชมการตกแต่งบ้านด้วยผ้าม่าน วอลเปเปอร์ จากโครงการ Lake Wood ต่อ |
ติดต่อวัดพื้นที่ประเมินราคาสนใจบริการติดตั้งผ้าม่าน วอลเปเปอร์ ฟิล์มอาคาร โทรนัดวัดพื้นที่ ประเมินราคาฟรี! |