ผ้าม่าน Blackout คืออะไร เลือกแบบไหนถึงเหมาะกับการใช้งาน

Decoration Tipผ้าม่าน Blackout คืออะไร เลือกแบบไหนถึงเหมาะกับการใช้งาน

ผ้าม่าน Blackout คืออะไร เลือกแบบไหนถึงเหมาะกับการใช้งาน

หลายคนมักสงสัยว่าผ้าม่าน Blackout คืออะไร ดีมั้ยเหมาะกับใคร มีคุณสมบัติอย่างไรบ้าง ต้องเลือกผ้า Blackout อย่างไรถึงจะมืดสนิท? และผ้าม่านกันแสงแบบ Blackout กับ Dimout ต่างกันยังไง? รวมถึง ผ้าม่านแบล็คเอ้าท์ ซักได้ไหม?

วันนี้เราได้รวบรวมทุกคำตอบมาไว้ให้แล้ว แต่เชื่อว่าหลายคนที่กำลังตัดสินใจซื้ออาจต้องอ่านกันก่อนเพราะ ผ้า Blackout มีให้เลือกหลายแบบ

ผ้าม่านกันแสง Blackout คืออะไร?

ผ้า Blackout คือนวัตกรรมการผลิตผ้าม่านกันแสง ที่มีจุดประสงค์เพื่อป้องกันแสงแดด ได้ถึง 100% และลดความร้อนได้มากกว่าผ้าม่านปกติทั่วไป

เหมาะสำหรับ ผู้ที่ต้องการความเป็นส่วนตัวขณะอยู่ในบ้าน หรือปกปิดแสงเพื่อการนอนหลับที่ดีขึ้นกว่าเดิม เพราะเพื่อนๆบางกลุ่มอาจจะต้องการนอนกลางวันในห้องที่มืด หรืออาจจะมีปัญหาการนอนหลับเนื่องจากแสงรบกวนจากภายนอก ซึ่งผ้าม่านกันแสงก็สามารถช่วยตอบโจทย์ในจุดนี้ได้ค่ะ

ผ้าม่าน Blackout มีกี่ประเภท?

เปรียบเทียบด้านหน้าและด้านหลัง ผ้าม่านกันแสง Blackout

ผ้าม่าน Blackout  (แบล็คเอาท์) เนื้อผ้าหลักจะทำมาจากวัสดุอย่าง โพลีเอสเตอร์ หรือโพลีเอสเตอร์ผสมคอตตอน แต่การเคลือบหรือทอด้านหลังผ้า Blackout นั้น จะใช้วัสดุที่ต่างกันดังนี้

1.ผ้าม่าน Blackout ชนิดเคลือบโฟม (FOAM COATING)

Blackout ชนิดเคลือบโฟม โดยจะเคลือบโฟมบริเวณด้านหลังผ้า ให้สัมผัสคล้ายฟองน้ำบางๆเคลือบอยู่ โดยมีให้เลือกทั้งแบบเคลือบโฟม 2 ชั้น และ 3 ชั้น การเคลือบโฟมจะไม่สามารถซักได้ เพราะจะทำให้โฟมด้านหลังผ้าหลุดร่อนได้แนะนำเป็นวิธีดูดไรฝุ่นแทน

2.ผ้าม่าน Blackout ชนิดเคลือบซิลิโคน (SILICONE COATING)

Blackout ชนิดเคลือบซิลิโคลน จะเคลือบด้านหลังของผ้าด้วยซิลิโคนสูงสุดถึง 4 ชั้น แต่การซักอาจต้องระวังมารถซักทำความสะอาดได้ โดยใช้โหมดซักถนอมผ้าสำหรับผ้าบางเบา ในอุณหภูมิไม่เกิน 30 องศาเท่านั้น

3.ผ้าม่าน Blackout ชนิดหลังผ้า (FABRIC BACKING)

Blackout ชนิดหลังผ้า จะนำผ้า 2 ชิ้นมาประกบติดกันโดยตรงกลางจะเคลือบด้วยวัสดุป้องกันแสงผ่านให้สัมผัสนิ่มนวลทั้ง 2 ด้าน เนื่องจากเป็นผ้าประกบกันทั้งด้านหน้า และด้านหลัง แบบหลังผ้าก็สามารถซักได้เหมือนรุ่นซิลิโคลนโดยใช้โหมดถนอมผ้าสำหรับผ้าบางเบา ในอุณหภูมิไม่เกิน 30 องศา

ผ้าม่านกันแสงแบบ Blackout กับ Dimout ต่างกันยังไง?

ผ้าม่านกันแสง

ตามข้างต้นเป็นอันทราบอยู่แล้วว่าผ้า Blackout สามารถกันแสงได้แบบ 100% แล้วความแตกต่างกับ ผ้าม่าน Dimout ล่ะต่างกันอย่างไร ใช่แล้วค่ะ Dimout คือ (ผ้าม่านชนิดแสงผ่านได้) และเป็นที่นิยมอย่างมากในปัจจุบัน เพราะแสงลอดผ่านได้ 10 – 40% คือไม่โปร่งจนเกินไป และไม่ทึบจนเกินไป

เหมาะกับทุกห้องที่ต้องการบังแสง บังสายตา แต่ห้องยังคงสว่างอยู่บ้าง และสีผ้ามีให้เลือกหลากหลายทำให้แต่งห้องได้หลายสไตล์ ที่สำคัญราคาไม่แพง สามารถเลือกตามงบประมาณที่ต้องการได้ 

ผ้าม่าน Blackout เหมาะกับห้องแบบไหน

ตัวอย่างผ้าม่านกันแสง Blackout

เนื่องจากคุณสมบัติการบล็อกแสงได้ 100% ผ้าม่าน  Blackout จึงสามารถนำมาใช้ได้ในหลายห้อง เช่น

  • ห้องที่ต้องโดนแดดจัดส่องตลอดทั้งวัน เพื่อป้องกันความร้อนและแสงยูวี
  • ห้องนอนสำหรับคนที่ต้องการนอนกลางวัน หรือมักจะถูกรบกวนจากแสงภายนอกเป็นประจำ
  • ห้องดูหนัง ห้องโฮมเธียเตอร์ เพื่อจำลองบรรยากาศโรงหนัง

ข้อดีของผ้าม่าน Blackout

• ผ้าม่านบล็อกแสง 100% ลดการสะสมของฝุ่น (Anti-Dust Blackout)
  • สามารถบล็อกแสงได้100% ช่วยให้ห้องมืดสนิท เพื่อการพักผ่อนได้ทั้งในเวลากลางวัน และกลางคืน
  • ช่วยลดความร้อนในห้องได้ 2-4 องศา
  • ช่วยลดเสียงรบกวนจากภายนอกห้อง

นอกจากนี้ผ้าม่าน Blackout ในบางคอลลเลคชั่นยังมีคุณสมบัติพิเศษอีก คือ สามารถป้องกันการลามไฟ (Flame Retardant) และ ดูดซับเสียงสะท้อนภายนอกได้ (Additional Noise Block) รวมถึงมีรุ่นที่สามารถ ลดการสะสมของฝุ่น (ALLERGY CARE) ได้อีกด้วย

ข้อเสียของผ้าม่าน Blackout

  • เนื้อผ้าจะแข็งกว่าชนิด Dimout ก็จะทำให้ขึ้นลอนไม่สวยเท่าที่ควร
  • หากผ้าเกิดรอยยับรีดคลายได้ยาก หรือหากเป็นกรณีเลือกใช้แบบชนิดเคลือบโฟมยิ่งอาจทำให้เป็นรอยได้ถาวร
  • อายุการใช้งาน ชนิดเคลือบโฟม และ เคลือบซิลิโคลน อาจสั้นกว่ารุ่น หลังผ้า หรือรุ่น Dimout ทั่วไปเพราะอาจเกิดการหลุดร่อนได้

มีข้อดีก็ต้องมีข้อเสียเป็นธรรมดา หลีกเลี่ยงไม่ได้ หรือจะให้ครบทีเดียวเลยก็ต้องรอนวัตกรรมใหม่ๆอีกทีงานนี้ก็ขอแนะนำให้เลือกตามการใช้งานจริงเปนหลักก็แล้วกันนะคะ

ผ้าม่าน Blackout ซักได้มั้ย?

ในการทำความสะอาด ผ้าม่าน Blackout จะต้องดูก่อนเสมอว่าผ้าม่าน Blackout ที่เราใช้เป็นแบบใหน ที่สำคัญในทุกเนื้อผ้าต้องตรวจเช็คสถานะและข้อแจ้งเตือนตามสัญลักษณ์ที่มีให้ทุกครั้งเพื่อจะได้ไม่เกิดความเสียหายตามมา

1.ชนิดเคลือบโฟม : เป็นผ้าม่านที่เคลือบด้านหลังด้วยโฟม มีความเสี่ยงใน
เรื่องของการหลุดของโฟม รอยพับ ยับ หัก ซึ่งเกิดได้ง่ายมากๆ ทำให้ในส่วนของการซักจะทำได้ค่อนข้างยาก และหากโดนน้ำแล้วนำไปตากมักเกิดปัญหาเนื้อโฟมมักติดกัน หลายๆร้านไม่รับซักผ้าหลังโฟม แต่เลือกใช้ บริการดูดไรฝุ่นแทน

2.ชนิดเคลือบซิลิโคน : พัฒนาขึ้นมาจากชนิดเคลือบโฟม มีความยืดหยุ่นมากกว่าสามารถซักและรีดได้ แต่ปัญหาเรื่อง รอบพับ ยับ ยังมีอยู่ หากแนะนำการทำความสะอาดด้วยวิธี ดูดไรฝุ่นอาจจะเหมาะกว่า แต่หากจำเป็นต้องซักจริงๆอาจต้องใช้บริการจากผู้เชียวชาญเท่านั้น!

3.ชนิดหลังผ้า : ด้านหลังจะซับเป็นผ้าชนิดเดียวกันกับด้านหน้า หรือเป็นคนละสีก็แล้วแต่แบรนด์ผ้านั้นๆ แต่การดูแลจะทำได้ง่าย เพราะสามารถซักและรีดได้แบบปกติเหมือนผ้า Dimout นั้นเอง แต่เนื่องด้วยผ้าอาจจะมีน้ำหนักที่ค่อนข้างมาก หากทำคนเดี๋ยวไม่ไหวแนะนำส่งซักกับผู้ให้บริการโดยตรง หรือหากเป็นลูกค้าของ Infinity Design อยู่แล้วก็สามารถเรียกใช้บริการได้เลยค่ะ

 

ติดต่อวัดพื้นที่ประเมินราคา

สนใจบริการ ติดตั้งผ้าม่าน วอลเปเปอร์ โทรนัดวัดพื้นที่ ประเมินราคาฟรี!

02-750-2563

 

ผลงานผ้าม่าน BLACKOUT

ชมผลงาน การตกแต่งบ้าน คอนโดด้วยวอลเปเปอร์จากโครงการต่างๆ 

คลิกชมผลงาน

author avatar
SASI Decorista
ประสบการณ์ด้านการให้คำแนะนำด้านการตกแต่ง ผ้าม่าน มู่ลี่ วอลเปเปอร์ กว่า 10 ปี