วิกฤตน้ำท่วม67 มาจากอะไร ทำไมถึงรุนแรง?
จากสถานการณ์น้ำท่วมในหลายจังหวัดในภาคเหนือและอีสานของไทยที่รุนแรงที่สุดในรอบ 10 ปี ได้ส่งผลกระทบให้บ้านเรือน ร้านค้า และพื้นที่ทำการเกษตรเสียหายอย่างหนัก หลายๆ คนคงคิดว่าความรุนแรงในครั้งนี้เกิดจากสาเหตุหลังอย่างอิทธิผลของ “ซุปเปอร์ไต้ฝุ่นยางิ” ที่มีความรุนแรงที่สุดของฝั่งเอเชียในปีนี้ แต่รู้หรือไม่ว่าจริงๆ แล้วมันมีสาเหตุอื่นมากกว่านั้น
จุดเริ่มต้นที่หลายคนมองข้าม
หากจะต้องเท้าความถึงสาเหตุหลักคงหนีไม่พ้นการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในปัจจุบัน ที่อุณหภูมิโลกร้อนถึงขั้นที่ทำให้ “ทะเลร้อน” จนเกิดประการังฟอกขาวในมหาสมุทร และทะลร้อนนี่และ..ที่มีผลต่อความชื้นในชั้นบรรยากาศ เพียงแค่รอปัจจัยเร่งที่ทำให้ฝนตกลงมาเท่านั้น
การเปลี่ยนแปลงในพื้นที่ อาจเป็นอีกหนึ่งสาเหตุ
เมื่อความชื้นปะทะกับปัจจัยเร่งทำให้ฝนตกหนักติดต่อกัน บวกกับ “แม่น้ำที่แคบลง” จากการลุกล้ำพื้นที่จนเกิดเป็นลักษณะของคอคอด และ “ภูเขาหัวโล้น” จากการทำไร่เลื่อนลอยและพืชเชิงเดี่ยว อย่าง ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ที่นิยมปลูกทั้งในประเทศและประเทศเพื่อนบ้าน โดยมีวิธีการกำจัดศัตรูพืชและตอซังด้วยวิธีการเผา ซึ่งเป็นสาเหตุของฝุ่น PM 2.5 และทำให้พื้นที่ใช้ปกคลุมดินกลายเป็นขี้เถ้า หน้าดินไร้การยึดเกาะ เมื่อมีปริมาณน้ำป่าไหลหลากจำนวนมหาศาลไหลผ่าน หน้าดินบนภูเขาจึงถูกพัดลงมาด้วย ทำให้เกิดปัญหาน้ำท่วมหนักที่มาพร้อมดินโคลนที่สูงเกือบเท่าหลังคาบ้าน
การบริหารจัดการน้ำที่ยังไม่ดีพอ
ประชาชนทุกคนเข้าใจดีว่าตอนนี้ทุกฝ่ายกำลังพยายามทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด แต่ต้องยอมรับความจริงว่า “การจัดการบริหารน้ำในประเทศ” ยังไม่ดีพอเท่าที่ควร ทั้งข้อมูลน้ำนานาชาติที่มีไม่ครบ ขาดการคาดการณ์น้ำที่แม่นยำ การติดต่ออสื่อสารระหว่างหน่วยงานไม่ราบรื่น และขาดการแจ้งเตือนที่เข้าใจง่าย ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นสาเหตุที่ทำให้ยิ่งตอกย้ำว่าน้ำท่วม67 ก็รุนแรงไม่แพ้น้ำท่วม54
อย่างไรก็ตาม หากผู้เชี่ยวชาญยังยืนยันว่าสถานการณ์ไม่รุนแรงเท่าปี 2554 แต่อย่าลืมว่าระดับน้ำในปีนี้สูงกว่าแน่ๆ เนื่องจากเกิดการบีบอัดลำน้ำจากการสร้างคันป้องกันตนเองของหลายหน่วยงาน อีกทั้งยังต้องเผชิญกับ “ระเบิดฝน (Rain Bomb)” ซึ่งมีลักษณะตกสั้น ๆ แต่ตกหนักในพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่งถี่มากขึ้น อันเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change)
วิกฤตนี้..ช้างต้องรอด
กรณีน้ำท่วม อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ มีโดยปางช้างได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม เมื่อเกิดวิฤตหนักทุกคนต่างพยายามช่วยช้างทุกเชือกให้ออกมาได้อย่างปลอดภัย แต่เนื่องจากมีข้อจำกัดหลายอย่าง เช่น สภาพพื้นที่ ปัจจัยจากปางช้างเองที่อาจจะไม่ได้เตรียมพร้อมพอสมควร ช้างส่วนใหญ่ช้างไม่ได้รับการฝึก ทำให้ทำให้การเคลื่อนย้ายและการอพยพต้องใช้เวลา บ้างก็ยังติดอยู่ในคอก บ้างก็ลอยไปกับน้ำ และการสูญเสีย
แม้ธรรมชาติจะส่งสัญญาณเตือนแล้วเตือนเล่า แต่ก็ยังไร้วี่แววรัฐบาลที่มีศักยภาพ จัดการปัญหาความเดือนร้อนของประชาชนในประเทศ และปัญหาสิ่งแวดล้อมได้ INFINITY DESIGN จึงขอเป็นส่วนหนึ่งที่ยังคงเดินหน้าสร้างความตระหนักรู้เรื่องสิ่งแวดล้อม และขอเดินทางทำกิจกรรม Infinity Design for GREEN พร้อมกับแนวคิดหลักของเราที่ว่า “บ้านจะสวยได้อย่างไร … ? ถ้าบ้านหลังใหญ่ยังถูกทำลาย” เพื่ออากาศที่สะอาดและ อนุรักษ์ธรรมชาติให้คงอยู่ในบ้านหลังใหญ่อีกนานเท่านาน