Infinity Design for Green EP.48 ศูนย์ศึกษาฯ เขาหินซ้อน
For Green ในปี 2017 เราจะบุกตะลุย โครงการหลวง เพื่อศึกษาดูงานมาเป็นความรู้ มาปรับใช้ และเผยแพร่ให้เกิดประโยชน์ ซึ่งในครั้งนี้เราก็ได้มากันที่ “ศูนย์ศึกษาฯเขาหินซ้อน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ” เป็นแหล่งเรียนรู้การพัฒนาอาชีพและสิ่งแวดล้อมกันค่ะ
Activities for GREEN
เดิมทีพื้นที่ อ.พนมสารคาม มีเขาหินก้อนใหญ่และเล็กเต็มไปหมด จึงเรียกว่าเขาหินซ้อน และเคยเป็นป่าที่มีความอุดมสมบูรณ์แห่งหนึ่งในภาคตะวันออก ต่อมามีการบุกรุกพื้นที่เพื่อใช้เป็นที่ทำกินของราษฎร ทำให้มีการปลูกพืชไร่เชิงเดี่ยวใช้ปุ๋ยและยาฆ่าแมลง ทำให้พื้นที่เสื่อมโทรมแห้งแล้ง แม้แต่ต้นมันสําปะหลัง พืชผลแล้งยังไม่สามารถปลูกได้
และเมื่อปี พ.ศ. 2522 ราษฏร 7 ราย ถวายที่ดินเพื่อให้ในหลวง ร.9 ได้สร้างพระตำหนัก แต่ด้วยสายพระเนตรอันกว้างไกล และพระเมตตาที่มีต่อราษฎร ทรงมีพระราชดำรัส “…ก็เลยถามผู้ที่ให้ที่นั้นนะ ถ้าหากไม่สร้างตำหนัก แต่ว่าสร้างเป็นสถานที่ที่จะศึกษาเกี่ยวกับการเกษตรจะเอาไหม เขาก็บอกว่ายินดี” ก็เลยเริ่มทำในที่นั้นเรื่อยมา
รู้อย่างนี้แล้วอย่ารอช้า ไปนั่งรถรางชมโครงการต่างๆ ที่เขาได้จัดทำขึ้นเป็นแปลงสาธิต และศูนย์ศึกษาทดลองกันเลย เพื่อจะได้นำความรู้ไปปฏิบัติปรับใช้กับตัวเอง และพัฒนาต่อยอดให้ผู้อื่นได้
โดยจุดแรกที่ได้แวะนั่นก็คือ “อาคารอบรม” เพื่อมาดูวีดีโอประวัติความเป็นมาของ “ศูนย์ศึกษาการพัฒนาเขาหินซ้อน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ” ที่มีความยาวประมาณ 20 นาที ซึ่งจะเล่าถึงความแห้งแล้งในอดีตและการเปลี่ยนแปลงที่มีความอุดมสมบูรณ์ของพื้นที่ในปัจจุบัน
หลังจากที่เราได้ดูวีดีโอเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ได้นั่งรถรางชมพื้นที่กันต่อ ซึ่งในระหว่างทางก็จะเห็นสวนที่โอบล้อมไปด้วยต้นไม้นานาพันธุ์, ความพอเพียงในการนำสิ่งต่างๆ ที่ได้จากการปลูกพืชผักมาแปรรูปเป็นอาหาร รวมถึงเครื่องจักสาน และแปลงการเกษตรที่สำหรับทดลองพืชพันธุ์ชนิดต่างๆ อย่างเช่น การขยายพันธุ์บัว ในปูนซีเมนต์ ที่เราเห็นกันในภาพข้างล้างนี้
นั่งไปไม่นานก็ถึง “เรือนเพาะเห็ดในถุงพลาสติก” ซึ่งเป็นที่ที่เราจะมาปฏิบัติภารกิจกันในวันนี้ โดยแบบที่ทางทีมงาน Infinity Design สนใจทำจะเป็น “สูตรขี้เลื่อย” ด้วยวัตถุดิบที่หาง่าย และขั้นตอนไม่ยุ่งยาก สามารถเรียนรู้และนำไปสร้างอาชีพได้เลย แต่ก่อนที่จะลงมือทำเราต้องมาฟังขั้นตอนการปฏิบัติกันเสียก่อน เพื่อให้สิ่งที่เราทำนั้นเกิดประโยชน์สูงสุด และมีผลผลิตที่ดีให้เราได้ทานกันจริงๆ
หลังจากที่วิทยากรบรรยายเสร็จ ก็พาไปดูเรือนเพาะเห็ดในโรงต่างๆ ซึ่งก็จะมีโรงเก็บถุงที่พึงทำเสร็จใหม่ ไปจนถึงโรงที่เห็ดออกดอกแล้ว หลายร้อยถุง ซึ่งทำให้พวกเราตื่นเต้นและอยากลองปฏิบัติจริงกันเสียที
และหลังจากนั้นไม่นานพี่วิทยากรก็พาเรามาที่โรงเก็บขี้เลื่อยขนาดใหญ่ เพื่อให้เราได้ปฏิบัติจริงกันแล้ว โดยพี่ๆ ทีมงานผู้ชายก็ไม่รีรอรีบไปหยิบอุปกรณ์ เช่น กระบุงใหญ่ และพลั่ว มาตักทรายให้เต็ม
จากนั้นก็มาช่วยกันแบกไปเข้าเครื่องปั่นส่วนผสม กันเป็นคู่ๆ โดยในแต่ละรอบนั้นจะใส่ขี้เลื้อยมาแบบพูนๆ ทำให้กล้ามแต่ละคนนั้นใหญ่ขึ้นเป็นมัดๆ โดยไม่ต้องเข้าฟิตเนสให้เสียตังค์เลยล่ะ
ขั้นตอนต่อไปนำขี้เลื้อยที่ได้เทลงในเครื่องปั่นส่วนผสม หรือจะเทลงถังและใช้ไม้คนก็ได้เช่นกัน ตามด้วยรำละเอียด, ปูนขาว, ยิบซั่ม, ดีเกลือ และน้ำพอประมาณ ปั่นจนให้เข้ากันและเทออก
ต่อมานำส่วนผสมที่ได้มาใส่ถุงปริมาณเศษ 3 ส่วน 4 ของถุง จากนั้นนำไม้มาทุบกดส่วนผสมให้แน่น และใช้จุกก๊อกท่อ PVC มาใส่ ต่อด้วยการนำกระดาษมาปิดปากถุง พร้อมมัดหนังยางปิดให้สนิท เท่านี้ก็เป็นการเสร็จเรียบร้อยแล้ว
โดยก้อนเชื้อเห็ดในถุงพลาสติกที่เราทำเมื่อสักครู่นี้ จะมาเรียงอยู่ในโรงเพาะเห็ดทั้งหมด เหมือนกับที่พี่ๆ เขาทำกันมา น่าภูมิใจที่สุดเลยค่ะ พวกเราหวังว่าก้อนเชื้อเห็ดที่เราทำ จะออกดอก และพร้อมนำไปรับประทานได้เลย
ในเวลาต่อมาเราได้มีโอกาสแวะไปชมเรือน “พลับพลาพระราม” ซึ่งเป็นที่ทรงงานของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในหลวงรัชกาลที่ 9 โดยด้านหน้ามีสวนดอกไม้จัดเรียงอย่างสวยงาม
ช่วงระหว่างทางเราก็ได้เห็นคณะน้องๆ หนูๆ ที่มาดูและเรียนรู้เกี่ยวกับเศษฐกิจพอเพียงด้วย ที่จุด “พรรณพืชควบคุมแมลง” อีกด้วย ถึงแม้จะยังเล็กอยู่แต่เท่าที่ดู เขาก็ชอบธรรมชาติที่นี่อยู่ไม่น้อยเลย
ขณะช่วงที่เราไปศึกษาดูงานอยู่นั้น บรรยากาศค่อนข้างร้อนจัด แปลงสาธิตต่างๆ เช่น ผักพื้นบ้าน, สมุนไพร, ไม้ดอกไม้ประดับ ก็ยังออกดอกออกผลสีสันสดใส ไม่มีวี่แววว่าจะเหี่ยวเฉาเลยสักนิด
นอกจากภายในศูนย์ศึกษาการพัฒนาเขาหินซ้อน อันเนื่องมาจากพระราชดำริจะมีพื้นที่สีเขียวมากมายแล้ว ยังมีผืนน้ำอย่าง “อ่างเก็บน้ำห้วยเจ๊ก” เป็นแหล่งน้ำซับในพื้นที่ป่าที่แห้งแล้งเพราะถูกแผ้วถางไป เนื้อดินเป็นทราย บริเวณพื้นที่เป็นแอ่งกระทะ มีลำธารน้ำเล็กๆ หลงเหลืออยู่ไหลผ่าน มีก้อนหินขนาดใหญ่อยู่กลางลำธาร มีปริมาณน้ำไหลเล็กน้อย แต่ก็เพียงพอกับการปลูกผักได้ และอีกที่หนึ่งคือ “ห้วยน้ำโจน” มีสะพานข้ามน้ำให้ได้ชมบรรยากาศและเป็นที่ถ่ายพรีเวดดิ้งของคู่รักบ่าวสาวของใครหลายๆ คนอีกด้วย
และก็หมดเวลาที่เราจะพาไปชม “ศูนย์ศึกษาการพัฒนาเขาหินซ้อน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ” กันแล้ว เนื่องจากยังมีอีกหลากหลายคณะที่จะเข้ามาศึกษาดูงาน ทำให้เวลาที่เราจะพาไปชมนั้นมันสั้นเสียเหลือเกิน แต่ไม่เป็นอะไรเดี๋ยวครั้งหน้าเราจะพาไปชมโครงการหลวงอีกแน่นอน
แต่ทริปของเรายังไม่หมดเพียงเท่านี้ เราจะไปบุกชม “บ่อน้ำผุด” ตั้งอยู่ที่ ต.หมูสี อ.ปากช่อง เป็นตาน้ำที่มีน้ำไหลมาตลอดปี เป็นตาน้ำที่มี น้ำผุดออกมา โดยธรรมชาติน้ำที่ผุดขึ้นมาเป็นน้ำฝนที่ตกไปอยู่ในใต้ดินและก่อนที่จะผุดขึ้นมาจากผิวดินก็ได้รับการกรองจากก้อนหิน ที่มีแคลเซียมคาร์บอเนตสูง ทำให้น้ำมีความใส สามารถลงเล่นน้ำได้ มีต้นไม้เขียวขจี เหมาะสำหรับมาปิคนิคและนั่งพักผ่อนมากเลยค่ะ
สนใจรับบริการ ติดตั้งผ้าม่าน วอลล์เปเปอร์ ติดต่อวัดพื้นที่ประเมินราคาฟรี! โทร 02-750-2563
ติดตามกิจกรรมการเที่ยวสนุก อย่างมีคุณค่า “เพื่อบ้านหลังใหญ่” ในแต่ละเดือน ของพวกเรา… เจ้ามดตัวเล็ก (แต่ยิ่งใหญ่สำหรับพวกเรา) กับ กิจกรรม Infinity Design for Green หรือดูรายละเอียดเกี่ยวกับกิจกรรมทั้งหมดของพวกเราได้ที่ www.InfinityDesign.in.th/ForGreen
บ้านจะสวยได้อย่างไร … ?
ถ้าบ้านหลังใหญ่ยังถูกทำลาย
Infinity design for GREEN