การทำหลุมฝ้ากับกล่องบังรางม่านต่างกันอย่างไร?
หลุมฝ้า และกล่องบังรางผ้าม่าน ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือก สำหรับเพื่อนๆ ที่อยากซ่องรางและขายึดผ้าม่าน ซึ่งอาจลังเลว่าควรเลือกแบบไหนดี วันนี้เราจึงมีข้อแตกต่างของทั้ง 2 แบบมาฝากกัน โดยมีทั้งข้อดีและข้อเสีย เพื่อเป็นการช่วยประกอบการตัดสินใจค่ะ
หลุมฝ้าซ่อนผ้าม่าน
คือ ความลึกของฝ้าที่มีการเจาะเป็นช่องลึกขึ้นไปหรือเรียกอีกอย่างว่าดรอปฝ้า ซึ่งมักจะถูกออกแบบมาตั้งแต่เริ่มก่อสร้าง โดยส่วนใหญ่จะมีความลึกอยู่ที่ 20 ซม. เพื่อไว้สำหรับซ่อนขายึดรางและตัวรางผ้าม่าน มีความกว้างหรือห่างจากผนังออกมา 20 ซม. ซึ่งสามารถเพิ่มความกว้างพิเศษได้ อย่าง 25 ซม. เพื่อให้เหมาะกับม่านลอน
ทั้งนี้หลุมฝ้าก็สามารถทำภายหลังก่อสร้างได้เช่นกัน แต่อาจจะต้องคำนึงถึงโครงสร้าง หรือระบบต่างๆ ว่าสามารถทำได้หรือไม่ เพราะการทำหลุมฝ้านั้น จะเป็นการยกระดับฝ้าให้สูงขึ้น ซึ่งอาจกระทบต่อโครงสร้างด้านบนได้นั้นเอง ส่วนในเรื่องของรูปแบบจะมีไม่มากนัก ส่วนใหญ่มักเพิ่มความสวยงามด้วยการตกแต่งไฟเข้าไปค่ะ
ข้อดี
- ซ่อนขายึดราง ตัวรางผ้าม่าน ให้ดูเป็นระเบียบ เรียบร้อย อีกทั้งยังช่วยบังในส่วนของหัวผ้าม่านซึ่งคงถูกใจสำหรับเพื่อนๆ ที่ไม่อยากเห็นหัวผ้าม่าน อาทิ หัวผ้าม่านจีบ เป็นต้น และยังช่วยป้องกันแสงแดดที่จะแยงเข้ามาได้อีกด้วย โดยการป้องกันได้มาก – น้อยนั้น จะขึ้นอยู่กับความสูงของหลุมฝ้า
- มีความยืดหยุ่น แข็งแรงของจุดติดตั้ง เพราะถือเป็นส่วนหนึ่งไปกับฝ้าหรือเพดาน ไม่ต้องทำแยกชิ้นเหมือนกล่องบังราง และไม่เป็นการเพิ่มน้ำหนักให้กับโครง C-line ที่มากจนเกินไป เพื่อไม่ให้เกิดผลเสียในอนาคต
แต่ทั้งนี้ก่อนทำควรเช็คและพูดคุยสเปคอย่างละเอียดและควรทำการเสริมไม้อัดหนา 20 MM. กับโครงด้านบนสุดของหลุมฝ้า บริเวณจุดที่ยึดม่านเพื่อให้สามารถเลือกจุดติดตั้งได้อย่างอิสระ และทำให้การติดตั้งม่านรางมอเตอร์ไฟฟ้า หรือม่านที่มีน้ำหนักมากได้อย่างมั่นใจ และปลอดภัย
- ช่วยทำให้ภายในห้องดูสูงโปร่ง ด้วยความที่มีการทำระดับของฝ้าให้สูงขึ้น เมื่อติดตั้งผ้าม่านความสูงของผ้าม่านก็จะเพิ่มขึ้นไปด้วย ซึ่งจะช่วยหลอกสายตาให้ภาพรวมภายในห้องนั้นดูสูงโปร่งยิ่งขึ้นนั่นเอง อีกทั้งยังสามารถกำหนดความกว้างพิเศษได้ง่าย และไม่เกิดปัญหาตกท้องช้าง
ข้อเสีย
- ราคาสูง เมื่อเทียบกับการทำกล่องบังรางโดยเฉพาะการทำกล่องลักษณะแค่เพิ่มไม้ปิดด้านหน้าฝั่งเดียว เนื่องจากหลุมฝ้านั้นมีขั้นตอนการทำที่ยุ่งยากกว่านั้นเอง ซึ่งต้องมีการรื้อฝ้า พร้อมเพิ่มโครงสร้าง และเก็บงานฝ้าเพื่อความเรียบร้อย
- มีความยุ่งยากหากทำหลังการก่อสร้าง เพราะต้องมีการรื้อฝ้า เพื่อยกระดับของฝ้าให้สูงขึ้น อีกทั้งยังต้องระวังในเรื่องของโครงสร้างด้านบน เช่น คานหรือท่อต่างๆ ว่าสามารถทำได้หรือไม่? หรือทำได้สูงได้เท่าไหร่?
กล่องบังราง
คือ การนำโครงไม้ หรือกล่องไม้มาติดครอบบริเวณรางผ้าม่าน เพื่อไว้สำหรับซ่อนขายึดราง และตัวรางผ้าม่าน ซึ่งจะเป็นโครงไม้ 3 ด้าน คือ ด้านบน ด้านข้าง และด้านหน้า หรือโครงด้านเดียว (เฉพาะด้านหน้า) ยึดติดกับโครง C-line ด้านบน ทั้งนี้มีหลากหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็น กล่องไม้ทาสีขาว หรือหุ้มด้วยผ้า เป็นต้น
ข้อดี
- ซ่อนขายึดราง ตัวรางผ้าม่าน ให้ดูเป็นระเบียบ เรียบร้อย ซึ่งจะเหมือนกับการทำหลุม อีกทั้งยังช่วยบังในส่วนของหัวผ้าม่าน และยังช่วยป้องกันแสงแดดที่จะทะแยงเข้ามา โดยการป้องกันได้มาก – น้อยนั้น จะขึ้นอยู่กับความสูงของกล่องบังราง ซึ่งขนาดที่แนะนำ คือ ลึก 2 ซม.และกว้างตั้งแต่ 20 ซม. ขึ้นไปสำหรับรางตรง
เนื่องจากในปัจจุบันมีบังรางสำเร็จให้ได้เลือกใช้ ส่วนใหญ่จะเป็นโครงสร้างปิดแค่ด้านหน้าด้านเดียว และอาจมีความสูงที่ไม่มาก จึงทำให้ปิดหัวผ้าได้ไม่ดีเท่าที่ควร ฉะนั้นเลือกเช็คสเปคให้ละเอียดก่อนติดตั้ง
- ติดตั้งได้ง่าย เนื่องจากเป็นการนำโครงไม้หรือกล่องไม้มาครอบประกอบและยึดกับตัวโครง C-line ของฝ้า จึงไม่จำเป็นต้องรื้อในส่วนของฝ้าให้เกิดความยุ่งยาก
- มีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น แบบกล่องไม้ทาสีขาว แบบหุ้มผ้า และแบบตกแต่งด้วยวอลเปเปอร์ เป็นต้น
ข้อเสีย
- อาจส่งผลต่อโครงสร้าง โดยเฉพาะในระยะยาว เนื่องจากเป็นการนำโครงไม้มายึดกับโครง C-line ซึ่งถือเป็นการเพิ่มน้ำหนักให้กับโครง C-line ซึ่งอาจจะทำให้ต้องเสียค่าใช้จ่ายซ่อมฝ้าในอนาคตได้
ทั้งนี้โดยปกติแล้ว C-line ที่โครงการบ้าน หรือคอนโดทั่วไปทำกัน จะทำมาตามสเปคสำหรับรับน้ำหนักของฝ้าเท่านั้น อาจไม่ได้เผื่อมาสำหรับรับน้ำหนักกล่องบังรางที่เพิ่มขึ้น ซึ่งอาจส่งผลเสียในเรื่องของความแข็งแรงได้
- อาจทำให้เกิดปัญหาเรื่องฝ้าตกท้องช้าง และเกิดเป็นช่องว่างระหว่างกล่องบังรางกับฝ้าได้ ซึ่งอาจจะต้องเสียค่าใช้จ่ายเพื่อทำการแก้ไข
เนื่องจากการทำบังรางอาจเป็นการเพิ่มข้อจำกัดด้านการติดตั้งม่านไปกับโครงไม้ด้านบน กรณีทำบังราง/กล่องไม้ หรือยึดฝ้า อีกทั้งกรณีทำบังรางแค่ด้านหน้าอย่างเดียว เมื่อยึดหรือติดตั้งม่านที่มีน้ำหนัก และแรงดึงมากอย่างม่านรางมอเตอร์ไฟฟ้า หรือม่านที่มีความกว้าง และสูงมากๆ
- ห้องดูไม่สูงโปร่ง โดยเฉพาะห้องที่มีความสูงไม่มากนัก เพราะกล่องบังรางเมื่อติดตั้งตัวกล่องจะอยู่บริเวณใต้ฝ้า ซึ่งส่งผลทำให้ภาพรวมภายในห้องนั้นดูเตี้ยลงนั้นเอง
แล้วควรเลือก หลุมฝ้าซ่อนผ้าม่าน หรือ กล่องบังราง?
- สไตล์การตกแต่ง แน่นอนว่าทั้ง 2 แบบจะให้ความสวยงามที่แตกต่างกัน โดยส่วนใหญ่แล้วการทำหลุมฝ้าจะเหมาะกับ การตกแต่งเกือบทุกสไตล์โดยเฉพาะสไตล์ Modern ที่ให้ความเรียบง่าย ทันสมัย
ส่วนกล่องบังรางจะเหมาะกับสไตล์ Luxury หรือ Classic ที่ให้ความหรูหรา เนื่องจากสามารถเพิ่มความหรูหราให้กับตัวกล่องบังรางได้ ด้วยลูกเล่นต่างๆ และการเพิ่มรายละเอียด เช่น ผ้าที่นำมาหุ้มหรือดีไซน์ของกล่องบังราง ไม่ว่าจะเป็นเส้นสายของไม้ที่มีการเข้าร่องในแบบคลาสสิคหรือวินเทจ
- พื้นที่การตกแต่ง ควรดูความสูงของเพดานจรดพื้นว่ามีความสูงมากน้อยเพียงใด เพราะหากมีความสูงที่ไม่มากนัก Infinity Design ผ้าม่าน ไม่แนะนำการทำกล่องบังราง เพราะจะทำให้ภายในบ้านนั้นดูเตี้ยและรู้สึกอึดอัด ซึ่งแนะนำให้เลือกทำเป็นหลุมฝ้าแทน แต่หากพื้นที่ค่อนข้างสูงสามารถทำได้ทั้ง 2 รูปแบบ คือ กล่องบังราง และ หลุมฝ้า ขึ้นอยู่กับการตกแต่งและความชอบ
ทั้งนี้หากเป็นบริเวณบานใต้แอร์ แนะนำให้ทำการซ่อนม่านแบบบิ้วท์อินไปพร้อมกับการติดตั้งแอร์ เพื่อที่กล่องจะได้อยู่ในระดับสูงชิดฝ้าและไม่ทำให้พื้นที่นั้นดูเตี้ยยิ่งขึ้น
ทั้ง 2 ทางเลือกไม่ว่าจะเลือกแบบไหน ควรจะคำนึงถึงข้อจำกัด และแบบม่านที่จะเลือกใช้ โดยโครงสร้างถือเป็นสิ่งที่สำคัญ ควรเช็คพื้นที่ ที่จะติดตั้งอย่างละเอียดว่าเหมาะกับการติดตั้งรูปแบบใด อาทิ หากทำหลุมฝ้าต้องเช็คระบบด้านบนว่ามีผลกระทบอะไรหรือไม่?
ส่วนการทำกล่องบังรางความเช็คในเรื่องของความแข็งแรงในการรับน้ำหนัก การเสริมไม้เพื่อความยืดหยุ่นในจุดติดตั้ง รวมถึงระยะห่างของโครงสร้าง C-line เพื่อลดการเกิดปัญหาในระยะยาว
สำหรับในส่วนของฝ้าถ้าไม่รู้ว่าโครงสร้างด้านบนมีการใส่ซีลายความห่างระยะเท่าไหร่ แนะนำให้ติดเฉพาะรางยึดกับผนังชิดขอบฝ้า จะเป็นการหลีกเลี่ยงปัญหาที่จะต้องซ่อมงานฝ้าระยะยาว ทั้งนี้เพื่อนๆ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่เลยค่ะ จำเป็นหรือไม่ … ต้องติดกล่องบังราง?
- คำแนะนำสุดท้าย สำหรับใครที่คิดว่าม่านไม่ใช่เป็นเพียงแค่สิ่งที่มีไว้เพื่อปิดบังหน้าต่าง ประตู และต้องการเน้นเป็นองค์ประกอบสำคัญเพื่อการตกแต่งบ้าน ควรจะเรียกผู้เชี่ยวชาญด้านการใช้บริการม่านและผ้าม่านมืออาชีพ เข้ามาให้การแนะนำตั้งแต่ช่วงของการวางแผนก่อสร้าง เพื่อทำการเตรียมโครงสร้างสำหรับติดตั้งม่านตั้งแต่เริ่มๆ เพื่อไม่เกิดปัญหาในระยะยาว
สนใจรับบริการ ติดตั้งผ้าม่าน วอลล์เปเปอร์ ติดต่อวัดพื้นที่ประเมินราคาฟรี! โทร 02-750-2563