จริงหรอที่ว่า? ผ้าหน้ากว้าง ทำผ้าม่านดีกว่า ผ้าหน้าแคบ
ปกติแล้ว ผ้าที่นำมาใช้ในการตัดเย็บผ้าม่านนั้น หลักๆ จะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ ผ้าหน้าแคบ และผ้าหน้ากว้าง ซึ่งผ้าทั้งสองชนิด จะมีรายละเอียดที่แตกต่างกัน!! ซึ่งเรามาทำความเข้าใจกันแบบง่ายๆ ถึงข้อดี – ข้อเสียเหล่านี้ ได้ในเนื้อหาด้านล่างนี้เลยค่ะ
ผ้าหน้ากว้างและผ้าหน้าแคบ คืออะไร
ผ้าหน้ากว้างจะมีขนาดความกว้างของหน้าผ้าอยู่ที่ ประมาณ 2.80 – 3.00 ม. ซึ่งจะกว้างกว่าผ้าหน้าแคบ ส่วนผ้าหน้าแคบจะมีขนาดความกว้างของหน้าผ้าอยู่ที่ประมาณ 1.20 – 1.50 ม. ฉะนั้นเวลาที่เราจะเลือกผ้าเบื้องต้น ควรจะทราบแล้วว่าผ้าราคาต่อหลาระหว่างผ้าหน้ากว้างและผ้าหน้าแคบ แตกต่างกันอย่างไร
ผ้าหน้ากว้างมีข้อดี ข้อเสีย อย่างไร
ข้อดี
- ไม่มีรอยต่อ เนื่องจากผ้าหน้ากว้างจะใช้หน้าผ้าเป็นความสูง จึงทำให้ไม่ต้องมีการต่อผ้าในแนวตั้ง สามารถทำความกว้างเท่าไหร่ก็ได้ โดยไม่ต้องต่อผ้า หากความสูงไม่เกินกว่าที่ผ้าทำได้
- ราคาถูกกว่า แม้ราคาต่อตารางหลาจะแพงกว่า แต่หากพิจารณาด้วยหน้าผ้าที่กว้างกว่าเกือบถึง 1 เท่า จึงทำให้ใช้จำนวนผ้าน้อยชิ้น ส่งผลให้ราคารวมนั้นถูกกว่า พอสมควร โดยผ้าหน้ากว้าง หากนำไปทำผ้าม่านไม่ว่าจะแบบสูงหรือสั้นก็จะมีราคาเท่ากัน
แต่ทั้งนี้หากผู้ให้บริการนั้นเน้นเรื่องราคาเป็นหลัก มักจะนิยมใช้ผ้าหน้ากว้าง มาทำผ้าม่านที่มีลักษณะสั้นเต่อ หรือความยาวแทบจะพอดีกับขอบวงกบหน้าต่าง เพราะแบ่งความสูงเป็นครึ่งหนึ่งได้ พูดง่ายๆ ถ้าทำสั้น จะสามารถแบ่งความสูงแล้วนำไปทำได้ถึง 2 บาน เลยทีเดียว ทำให้ราคาต้นทุนลดลงไปได้มากนั้นเองค่ะ
ข้อเสีย
- ข้อจำกัดด้านความสูง ผ้าหน้ากว้างไม่สามารถทำความสูงเกิน 2.50 ม. – 2.70 ม. ขึ้นอยู่กับหน้าผ้าโดยไม่มีรอยต่อ ซึ่งแล้วแต่เทคนิคของแต่ละร้านผ้าม่าน อาจจะเติมความสูงได้เล็กน้อย แต่การทำเช่นนี้จะทำให้ลายผ้าม่านที่เลือกนั้นต้องกลับด้าน เช่น ลายเส้นตรงแนวตั้ง กลายเป็นลายเส้นตรงแนวนอน ดังนั้น หากคอนโด หรือบ้าน มีความสูงเกินข้างต้น จึงไม่เหมาะที่จะใช้ผ้าหน้ากว้าง ที่ไม่ต้องการแบบต่อค่ะ
- ไม่ค่อยมีความหลากหลาย ผ้าหน้ากว้างจะมีแบบให้เลือกน้อยกว่าผ้าหน้าแคบ โดยผ้าหน้ากว้างเริ่มเข้ามาสู่ตลาดไทยประมาณ 2558 ซึ่งผู้ผลิตทางเลือกจะนำเข้าผ้าม่านมาทำราคาให้ถูก เพื่อแข่งขันกับผู้นำเข้าผ้าที่เน้นคุณภาพรายดั่งเดิม ถือเป็นอีกทางเลือกของกลุ่มลูกค้าที่เน้นเรื่องราคา
- ความสวยงาม แม้ผ้าหน้ากว้างจะมีข้อดี ที่ไม่ต้องมีการต่อผ้าเวลาเย็บ แต่ผ้าบางตัวการทอจะไม่แน่น ซึ่งการเย็บขอบของผ้าหน้ากว้างนั้น จะทำได้ยาก อาจเกิดปัญหาเย็บแล้วเอียงได้ง่าย เนื้อผ้าบางตัวที่มีลักษณะค่อนข้างแข็ง คล้ายพลาสติก จึงทำให้การทิ้งตัวของผ้าไม่ดีเท่าผ้าหน้าแคบ และดูไม่เป็นธรรมชาติ
- การลดคุณภาพ ไม่ใช่ว่าผ้าหน้ากว้างจะทำคุณภาพได้ดีเทียบเท่าผ้าหน้าแคบ และหลักๆ แล้วผ้าหน้ากว้างไม่เหมาะกับการทำม่านในลักษณะที่เป็นผ้าลาย เพราะหากมีการต่อลายผ้า ก็จะมีเศษผ้าที่ต้องถูกทิ้งมากกว่าผ้าหน้าแคบ ดังนั้นผ้าหน้ากว้างส่วนใหญ่จึงมีความหลากหลายเป็นผ้าเรียบ อีกทั้งบางตัวก็ไม่สามารถทำได้กับทุกม่าน ดังนั้นการเลือกผ้าหน้ากว้าง ต้องพิจารณาถึงคุณสมบัติเหล่านี้ด้วย
- การหดของตัวผ้า เนื่องจากผ้าหน้ากว้างจะมีความหนาแน่นในการทอที่ค่อนข้างน้อยกว่าผ้าหน้าแคบเมื่อเทียบกับผ้าชนิดเดียวกัน อย่าง ผ้า Dimout หรือ Polyester ซึ่งการหดของตัวผ้าหน้ากว้างจะมีโอกาสเกิดขึ้นมากกว่า อาจจะเห็นได้ค่อนข้างชัดเมื่อนำไปซัก
- แหล่งผลิต ต้องยอมรับว่าปัจจุบันทั้งผ้าหน้ากว้างและหน้าแคบส่วนใหญ่ จะมีที่มาจากประเทศจีน จึงทำให้ผ้าราคาถูก แต่ทั้งนี้ผ้าหน้ากว้างเองก็มีหลากหลายเกรดให้เลือก แต่ส่วนใหญ่การทอจะมีลักษณะเหมือนพลาสติกผสมผ้า
ประกอบกับความคุ้มค่าในการผลิตที่เน้นเรื่องราคา จึงเป็นที่มาของผ้าหน้ากว้างที่มีจำหน่ายในเมืองไทย โดยผ้าหน้ากว้างจะมีความหนาแน่นในการทอ ที่น้อยกว่าผ้าหน้าแคบ ซึ่งอาจพูด ได้ว่าผ้าหน้าแคบจึงมีคุณภาพที่ดีกว่า
อีกทั้งข้อจำกัดของผ้าหน้ากว้างในเรื่องคุณภาพการเย็บ การทำผ้าม่านบางประเภท เช่น ม่านพับ ที่อาจจะไม่ดีเท่า และมีการรั้งกว่าผ้าหน้าแคบที่มีขายปัจจุบันในไทย
ผ้าหน้าแคบมีข้อดี ข้อเสีย อย่างไร
ข้อดี
- ไม่มีข้อจำกัดในเรื่องความสูง ผ้าหน้าแคบเป็นผ้าที่มีการต่อในส่วนของด้านข้าง ฉะนั้นจึงไม่มีปัญหาในเรื่องของความสูง ซึ่งสามารถใช้กับความสูงเท่าไหร่ก็ได้ แต่ต้องระวังเรื่องความละเอียดในการต่อผ้าว่าจะต่อจุดที่เห็นชัดเจน หรือยอมเสียผ้าเพิ่มเพื่อหลบรอบต่อ
- ความหลากหลาย ผ้าหน้าแคบถือเป็นผ้าที่มีมานาน จึงมีสีสัน รูปแบบให้เลือกที่หลากหลายมากกว่าผ้าหน้ากว้าง และในกรณีที่ต้องต่อลายจะเสียผ้าน้อยกว่าผ้าหน้ากว้าง
- คุณภาพ ถือเป็นผ้าที่มีการทอได้อย่างละเอียดแน่น ซึ่งผ้าหน้ากว้าส่วนใหญ่จะทอไม่แน่นเท่าผ้าหน้าแคบแน่ๆ เมื่อกดลงไปที่ตัวผ้าจะไม่มีอาการบุ๋มหรือบุบ เหมือนผ้าหน้ากว้าง
- ความสวยงาม ด้วยลักษณะการทอและคุณภาพของหน้าผ้าที่แคบ จึงทำให้เมื่อมีการตัดเย็บออกมาจะได้ขอบผ้าที่ตรง ไม่รั้งเหมือนผ้าหน้ากว้าง รวมไปถึงการทิ้งตัวของผ้าที่ดี
ซึ่งเมื่อทำการติดตั้ง จะดูเรียบร้อย และได้ลอนผ้าม่านที่สวยงาม อีกทั้งผ้าหน้าแคบ ยังมีผ้าธรรมชาติ อย่าง cotton ลินิน และผ้าพิมพ์ลวดลาย ให้ได้เลือกใช้กันอีกด้วย
ข้อเสีย
- รอยต่อผ้า เนื่องจากเป็นผ้าที่มีหน้าผ้ากว้างเพียงแค่ 1.50 ม. ฉะนั้นเมื่อบานหน้าต่างมีขนาดที่กว้างกว่า จึงต้องมีความจำเป็นในการต่อผ้า จนทำให้เกิดเป็นรอยต่อ
ซึ่งทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับเทคนิคและการตัดเย็บของแต่ละร้านว่าจะสามารถซ่อนรอยต่อผ้าได้มากน้อยเพียงใด เพราะบางร้านก็แทบไม่เห็นรอยต่อเลยทีเดียว
- ราคาสูง ผ้าในบ้านเราผ้าหน้าแคบถือเป็นผ้าที่มีคุณภาพดีกว่าผ้าหน้ากว้าง ซึ่งขนาดหน้าผ้าที่แคบ จึงทำให้ต้องมีการใช้ผ้าหลายผืนในการตัดเย็บ ส่งผลทำให้มีราคาค่อนข้างสูง อาจจะเสียเปรียบผ้าหน้ากว้างหากผ้ามีความสูงในระยะที่ใกล้เคียงกันกับหน้าผ้าของผ้าหน้ากว้างเพราะจะทำให้ราคาสูงกว่า
แล้วควรใช้ผ้าแบบไหนหล่ะ ?
หากจะฟันธงเลยว่า ควรเลือกผ้าแบบไหนนั้น คงจะตอบได้ยาก ซึ่งอาจจะต้องตอบคำถามเหล่านี้ เพื่อเป็นตัวช่วยในการชั่งน้ำหนักสำหรับการตัดสินใจ
- ความสูงของบ้าน หรือคอนโดอยู่ที่ประมาณเท่าไหร่ เหมาะแก่การใช้ผ้าหน้ากว้างหรือผ้าหน้าแคบ
- คุณซีเรียสเรื่องรอยต่อของผ้า เพราะอะไร ? รอยต่อของผ้าน่าเกลียดอย่างนั้นจริงเหรอ… เพราะปกติแล้วการต่อผ้าอย่างถูกวิธี จะมีการหลบรอยต่อให้อยู่ในช่วงระหว่างลอนผ้าม่าน ซึ่งน่าจะเห็นไม่ชัดอยู่แล้ว หากไม่ได้สังเกต !! คลิก ดูตัวอย่าง ผ้าม่านจีบ
- หากจำเป็นต้องมีการกลับหน้าผ้า ในกรณีที่มีความสูงไม่ถึง สำหรับผ้าหน้ากว้างคุณยอมรับได้มากน้อยเพียงใด
- ใส่ใจหรือเน้นในเรื่องของคุณภาพผ้า ซึ่งมีผลต่อการตัดเย็บหรือไม่ การทิ้งตัวของผ้า ลอนธรรมชาติคือสิ่งที่คุณต้องการหรือไม่?
- สุดท้าย คือ งบประมาณที่ได้กำหนดไว้มากน้อยเพียงใด นอกจากมีผลต่อผ้าแล้ว ยังมีผลต่อสเปคการตัดเย็บอีกด้วย สูงเต็ม/สูงเต่อ รวมไปถึงการเก็บแล้วพ้นขอบวงกบหรือมีม่านมาบังประตูหน้าต่างเวลารวบเก็บผ้าม่าน
หากตอบคำถามข้างต้นได้แล้ว…. และสนใจที่จะติดตั้งผ้าม่านไม่ว่าจะผ้าหน้ากว้างหรือผ้าหน้าแคบ สามารถติดต่อพวกเรา Infinity Design ได้ที่นี่เลย คลิก!!