แต่งห้องไม่ให้อึดอัด ด้วยสไตล์.. Minimalism
กลับมาเจอกันอีกครั้งกับเทคนิคการตกแต่งห้อง จากพวกเรา Infinity Design หลังจากตอนที่แล้วพวกเราได้แนะนำถึงเรื่อง เทคนิคการเลือกสีในการตกแต่งบ้าน และคอนโด วันนี้เราจะมาพูดถึงการแต่งห้องสไตล์ Minimalism ซึ่งจะทำให้ห้องดูกว้าง และดูไม่อึดอัด มาฝากเพื่อนๆ กันครับ..
หลังจากหลายๆ บ้านได้กำจัดบรรดาเฟอร์นิเจอร์ที่แช่อิ่มน้ำท่วมจนบวมไปพ้นบ้านแล้ว บ้านชั้นล่างคงดูโล่งอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน ซึ่งก็เป็นโอกาสอันดีที่จะได้เริ่มต้นปีใหม่ด้วยความปลอดโปร่ง โล่งสบาย และเรียบง่าย หลายๆ คนก็กำลังมองหาเฟอร์นิเจอร์เข้ามาติด ซึ่งวันนี้เราก็มีแนวทางการตกแต่งแบบ Minimalism ที่จะช่วยให้บ้านของเพื่อนๆ ดูโปร่ง โล่ง สบาย มองไปไม่อึดอัดมาฝากเพื่อนๆ กันครับ
แนวความคิดแบบ Minimalism นี้ แท้จริงแล้วคือ การลดทอนรายละเอียดจนเหลือน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ภายใต้เงื่อนไขของความจำเป็น ซึ่งคอนเซ็ปต์นี้ถูกพัฒนาอย่างแพร่หลายในประเทศตะวันตกในช่วงยุค 60s และรับรองได้ว่าดีจริง เพราะเป็นคอนเซ็ปต์ที่แฝงตัวอยู่ในศิลปะแทบทุกแขนงตั้งแต่ศิลปะบริสุทธิ์ ประติมากรรม ดนตรี แฟชั่น วรรณกรรม การออกแบบผลิตภัณฑ์ สถาปัตยกรรม รวมไปถึงการออกแบบตกแต่งภายใน
โดยแนวคิด Minimalism นั้น สามารถแบ่งออกเป็นขั้นตอนดังต่อไปนี้
1. Uncluttering จะแต่งบ้านให้ดู “น้อย” ได้อย่างไรหากยังมีอะไรต่อมิอะไรให้รกหูรกตา การจัดระเบียบข้าวของเป็นภารกิจที่ท้าทายความสามารถ และกำลังอย่างหนึ่ง เพราะตามประสาปุถุชนแล้วก็คงมีความงก และอาการยึดติดเป็นธรรมดา หากคิดอะไรไม่ออกลองแยกออกเป็น 3 กองก่อน คือของจำเป็นต้องใช้ ของบริจาค หรือขายต่อ และของสำหรับทิ้ง เมื่อดำเนินการโดยเหตุผลปราศจากการเข้าข้างตัวเองแล้ว จะพบว่าเราสามารถกำจัดของรกบ้านไปได้มากกว่าที่คิด ขั้นตอนต่อไปเหลือแค่การจัดเก็บสิ่งของที่จำเป็นต่อการดำรงชีพเข้าตู้ให้เป็นระเบียบมิดชิด
2. Balancing ความสมดุลมีความสำคัญมากในการจัดวางแบบ Minimalism เนื่องจากในห้องมีส่วนประกอบอยู่น้อย หากจัดวางในตำแหน่งที่ไม่ “แม่น” พออาจพลอยทำให้ห้องดูหนักไปข้างหนึ่งได้ ดังนั้นก่อนลงมือเคลื่อนย้ายจริงลองเริ่มจากการตีตารางให้ได้มาตราส่วนของห้องจริง และจัดแปลนห้องในกระดาษโดยเริ่มจากเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่ก่อน ซึ่งเราควรจะกำหนดให้เป็นจุดสนใจของห้องโดยมีองค์ประกอบอื่นๆ คอยถ่วงดุล หลีกเลี่ยงการจัดวางเฟอร์นิเจอร์แบบสมมาตรซึ่งจะดูเป็นทางการเกินไป เลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ให้น้อยชิ้นที่สุดเท่าที่จำเป็นสำหรับสมาชิกในบ้าน
3. Controlling Colors สีสันหลากหลายคงต้องพักไว้ก่อนหากปักใจจะเลือกสไตล์นี้ นอกจากสีขาว และเทาที่เห็นกันเป็นหลัก สีที่ออกจะสงบสำรวมเป็นกลางก็มีให้เลือกมากอยู่ ลองเลือกมาหนึ่งสีที่ค่อนข้างสว่างสำหรับใช้กับพื้นที่ทั้งหมด เพื่อให้ดูห้องกว้าง และโล่งมากขึ้นภายใต้สีเดียวกันนี้ ควรเลือกใช้ผิวสัมผัสที่แตกต่างปราศจากลวดลาย มาสร้างความน่าสนใจ
4.Choosing Furniture หากมีโอกาสซื้อเฟอร์นิเจอร์ใหม่ควรเลือกแบบที่เรียบเนี้ยบ เส้นสายคมกริบ รูปทรงเสมือนเป็นมวลเดียวไม่มีรายละเอียดซับซ้อน และเปลือยเนื้อวัสดุให้สื่อคุณค่าในตัวเอง ถ้าไม่อยากให้ดูแข็งกระด้างเกินไปอาจเลือกที่มีเส้นสายโค้งมน เผยเนื้อไม้ธรรมชาติสีอ่อนสไตล์ Scandinavian ก็จะได้บรรยากาศที่ละมุน และเป็นกันเองมากขึ้นก็ได้
5. Minimal Lifestyle เมื่อปรับโฉมจนได้บ้านใหม่สไตล์ Minimalism เป็นที่พอใจแล้ว การจะรักษาสภาพนี้ไว้ดูจะยากกว่าตอนเริ่มต้นมากนัก เพราะอยู่ๆ ไปถ้าใจไม่แข็งพอก็คงมีข้าวของงอกออกมาเพียบ อะไรๆ ที่เคยเป็นระเบียบก็คงต้องมาสะสางกันอีกรอบ วิธีป้องกันเหตุการณ์นี้ก็คงไม่มีอะไรจะดีไปกว่าการห้ามใจไม่ให้ซื้อ และสร้างระเบียบวินัยในตัวเอง
สำหรับเพื่อนๆ ที่สนใจรับบริการติดตั้งผ้าม่าน มู่ลี่ วอลล์เปเปอร์ สามารถติดต่อขอคำแนะนำ ชมตัวอย่างผ้าม่าน และการตกแต่งบ้าน คอนโด พร้อมนัดให้พวกเราเข้าไป วัดพื้นที่จริง และประเมินค่าใช้จ่ายฟรีได้ครับ
ติดตามอัลบั้มผลงานรูปผ้าม่าน มู่ลี่ ม่านปรับแสง ม่านม้วน วอลเปเปอร์สวยๆ ได้ใหม่ที่ http://www.infinitydesign.in.th/หรือสอบถามข้อสงสัยเกี่ยวกับผ้าม่าน และกด Like อัลบั้มรูปผ้าม่านที่ชอบได้ที่ http://www.facebook.com/InfinityDesign ครับ