"ที่นอน" จำเป็นหรือไม่ ที่ต้องซื้อ "แพง"
“ที่นอน” คือสิ่งที่ทุกคนต้องคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี เพราะต้องเอนกายลงนอนอยู่ทุกคืน ซึ่งในปัจจุบันก็มีให้เลือกกันอย่างมากมาย หลายรูปแบบ หลายราคา จึงทำให้เกิดความตระหนักว่าที่นอนนั้น แท้จริงแล้วควรซื้อแบบใด และควรมีราคาอยู่ที่เท่าไหร่
ที่นอน
ถือเป็นสิ่งหนึ่งที่ควรให้ความสำคัญ เนื่องจากคนเราใช้เวลาอยู่บนที่นอนประมาณ 7-8 ชั่วโมงต่อวัน ซึ่งส่วนใหญ่มักจะพบเจอกับปัญหา อาการปวดหลัง นอนหลับไม่สนิทที่เกิดจากการเลือกซื้อที่นอน ที่ไม่ตอบโจทย์กับสรีระร่างกาย
แล้วที่นอนแบบไหนหล่ะที่ควรเลือกซื้อ และจำเป็นหรือไม่ที่ต้องซื้อที่นอนในราคาที่แพงเรามาดูคำตอบกันค่ะ
Source by juniperhome
ประเภทของที่นอน
ปัจจุบันได้มีให้เลือกกันอย่างหลากหลาย โดยแต่ละประเภทนั้นก็มีคุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งหลักๆ แล้วจะมี 4 ประเภทด้วยกัน คือ
Source by lovelyving
– ที่นอนสปริง ถือเป็นที่นอนที่ได้รับความนิยมค่อนข้างมาก เพราะมีความยืนหยุ่น คืนตัวได้ดี รวมไปถึงการยุบตัวของที่นอนที่เข้ากับสรีระของร่างกาย ซึ่งเหมาะสำหรับเพื่อนๆ ที่ชอบนอนตะแคง ด้วยการยุบตัวที่ดีของที่นอน จึงไม่ทำให้เกิดการกดทับ และ ช่วยลดอาการปวดเมื่อยต่างๆ
แต่ทั้งนี้ควรดูในเรื่องของคุณภาพของที่นอนด้วยเช่นกัน เพราะส่วนใหญ่มักเจอปัญหาที่นอนยุบตัวเป็นแอ่ง ซึ่งอาจก่อให้เกิดผลเสียมากกว่าผลดีค่ะ
– ที่นอนฟองน้ำ ถือเป็นที่นอนที่มีความนุ่มมากๆ แต่ไม่มีความยืดหยุ่นหรือคืนตัวเหมือนที่นอนสปริง ซึ่งไม่เหมาะกับผู้ที่มีอาการปวดหลัง เพราะที่นอนไม่มีความยืดหยุ่นที่จะรองรับสรีระของร่างกายได้ อีกทั้งยังมีอายุการใช้งานที่น้อยอีกด้วย
– ที่นอนยางพารา ถือเป็นที่นอนที่ได้รับความนิยมกันมากในปัจจุบัน เพราะมีความยืดหยุ่นสูง ไม่มีการแอ่นของที่นอน ซึ่งช่วยลดอาการปวดเมื่อยต่างๆ ได้ดี อาทิ อาการปวดหลัง เป็นต้น อีกทั้งยังไม่กักเก็บฝุ่นและความชื้นต่างๆ อีกด้วย แต่มีราคาค่อนข้างสูงกว่าที่นอนประเภทอื่นๆ
– ที่นอนใยมะพร้าว ถือเป็นที่นอนที่มีความอัดแน่นค่อนข้างสูง จึงทำให้ที่นอนนั้นแข็ง ไม่ยุบตัว ก่อให้เกิดอาการปวดเมื่อยต่างๆ ได้ง่าย อีกทั้งเมื่อเสื่อมสภาพ จะก่อให้เกิดฝุ่น ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อระบบทางเดินหายใจได้อีกด้วย ซึ่งปัจจุบันไม่ค่อยนิยมใช้ เมื่อเทียบกับที่นอนประเภทอื่นๆ
การเลือกซื้อที่นอน
1. ขนาด
สำหรับขนาดที่นอนนั้นควรเลือกให้เหมาะกับจำนวนผู้ใช้งาน เพื่อไม่ให้รู้สึกอึดอัดขณะนอนพักผ่อน อีกทั้งยังช่วยให้หลับสบายมากยิ่งขึ้นอีกด้วย ซึ่งหลักๆ แล้วที่นอนจะมีให้เลือก 3 ขนาดด้วยกันคือ
– King Size หรือ ที่นอน 6 ฟุต มีขนาดประมาณกว้าง 180 ซม. ยาว 195 ซม. (กว้าง 6 ฟุต ยาว 6.5 ฟุต ) ถือเป็นที่นอนที่มีขนาดใหญ่ สามารถนอนได้ 2 คน แต่หากตัวไม่ใหญ่มากนัก ก็นอนได้ 2-3 คน กันเลยทีเดียว โดยที่นอน King Size นี้ จะเหมาะสำหรับห้องนอนที่มีขนาดใหญ่
– Queen Size หรือที่นอน 5 ฟุต มีขนาดประมาณ กว้าง 150 ซม. ยาว 195 ซม. (กว้าง 5 ฟุต ยาว 6.5 ฟุต ) ซึ่งมีขนาดเล็กกว่าที่นอน 6 ฟุตเพียงเล็กน้อย สามารถนอนได้ถึง 2 คน เหมาะสำหรับพื้นที่ ที่มีขนาดย่อมลงมา หรือ ต้องการประหยัดพื้นที่การใช้งานภายในห้อง
– Twin Size หรือ ที่นอน 3.5 ฟุต มีขนาดกว้าง 105 ซม. ยาว 195 ซม. (กว้าง 3.5 ฟุต ยาว 6.5 ฟุต ) ถือเป็นที่นอนที่มีขนาดเล็ก เหมาะสำหรับการนอนคนเดียว โดยส่วนใหญ่มักนิยมใช้กับห้องนอนเด็ก ซึ่งขนาดของห้องจะมีพื้นที่ ที่ไม่ใหญ่มากนัก
ส่วนในเรื่องของการตกแต่งก็เป็นสิ่งหนึ่งที่สร้างความโดดเด่น ความสวยงามให้กับที่นอน และ ภายในห้องได้เป็นอย่างดี โดยเพื่อนๆ สามารถดูเทคนิคการเลือกผ้าปูที่นอนได้ที่นี่เลยค่ะ 5 เทคนิค เลือกผ้าปูที่นอนไม่ให้ห้องน่าเกลียด!!
2. คุณสมบัติ
ในแต่ละแบรนด์หรือยี่ห้อ ก็มักสร้างจุดเด่นที่ไม่เหมือนกัน เพื่อสร้างเอกลักษณ์ อาทิ เน้นเรื่องความนุ่น การยืดหยุ่น ไม่สะสมความชื้น ป้องกันไรฝุ่น เป็นต้น โดยสิ่งนี้มักจะเป็นตัวกำหนดในเรื่องของราคา มาก น้อย ที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งจะขึ้นอยู่กับคุณสมบัติพิเศษและวัสดุที่นำมาใช้ในการผลิตนั้นเอง
3. ตอบโจทย์สรีระร่างกาย
การเลือกที่นอนให้ตอบโจทย์สรีระร่างกาย Infinity Design ผ้าม่าน มองว่า เป็นปัจจัยหลัก ที่ส่งผลต่อการพักผ่อน รวมไปถึงอาการปวดต่างๆ โดยการเลือกนั้นควรเลือกให้เหมาะสมและพอดีไม่แข็งหรือยุบตัวจนเกินไป เพราะอาจส่งผลเสียต่อร่างกายได้ อาทิ
– ที่นอนที่แข็งมากจนเกินไป ด้วยความที่ไม่มีการยืดหยุ่น อ่อนนุ่ม จึงทำให้ที่นอนไม่โค้งเว้ารับกับสรีระของร่างกาย ซึ่งอาจส่งผลในเรื่องของอาการชา ที่ไหล่ แขนและขา เนื่องจากมีแรงกดทับเส้นเลือกฝอยจากที่นอน รวมไปถึงอาการปวดต่างๆ ที่บริเวณคอและไหล่อีกด้วย
– ที่นอนที่ยุบตัวมากจนเกินไป จนเกิดเป็นแอ่ง เพราะเรามักจะนอนอยู่ที่บริเวณเดิมๆ จึงทำให้เกิดเป็นแอ่งได้ง่าย ซึ่งอาจส่งผลทำให้เกิดอาการกดทับบริเวณหมอนรองกระดูกได้ รวมไปถืออาการกระดูกสันหลังคด
Tip! หากที่นอนบ้านเพื่อนๆ แข็งหรือมีการยุบตัวมากจนเกิดเป็นแอ่ง แนะนำให้นำที่นอนยางพารามารองไว้บนที่นอนเดิม โดยเลือกความหนาที่เหมาะสม อาทิ ที่นอนแข็งควรใช้ความหนาประมาณ 2 นิ้ว ส่วน ที่นอนที่เกิดแอ่งควรใช้ความหนาประมาณ 6-8 นิ้ว เป็นต้น เพื่อช่วยลดอาการต่างๆ เนื่องจากที่นอนยางพารามีความยืดหยุ่นสูง ซึ่งจะช่วยลดอาการปวดต่างๆ ได้เป็นอย่างดีค่ะ
แล้วจะเอายังไงดีหล่ะ ? “ที่นอน” จำเป็นหรือไม่ ที่ต้องซื้อ “แพง”
หากจะให้ฟันธงเลยนั้น ก็คงจะไม่ได้ เพราะแต่ละคนก็มีความชอบที่ไม่เหมือนกัน รวมไปถึงสรีระร่างกายที่เหมาะกับที่นอนที่แตกต่างกัน อีกทั้งหากวัดในเรื่องของราคา จำนวนเท่าไหร่กันหล่ะถึงเรียกว่าแพง
เนื่องจากแต่ละบุคคลก็ไม่ได้ตั้งราคาในมาตรฐานเดียวกัน ฉะนั้นคงต้องดูความต้องการและการใช้งานควบคู่กันไปด้วย เพื่อเป็นตัวช่วยประกอบในการตัดสินใจ
Source by walmartbytes
1. เหมาะกับสรีระร่างกาย ไม่แข็งหรือยุบตัวจนเกินไป เพื่อการนอนหลับพักผ่อนที่ดี และ ลดอาการปวดต่างๆ ของร่างกาย
2. เปรียบเทียบระยะเวลาการใช้งาน กับเงินที่เสียไป ว่ามีความคุ้มค่ามากน้อยเพียงใด เพราะหากซื้อในราคาที่ถูก แต่ต้องเปลี่ยนที่นอนอยู่บ่อยครั้ง เมื่อลองคำนวณอาจเสียค่าใช้จ่ายมากกว่าการซื้อที่นอนในราคาแพงก็เป็นได้ ซึ่งอายุการใช้งานของที่นอนหลักๆ ขั้นต่ำจะอยู่ที่ 10 ปี
3. การรับประกัน หากมีสิ่งนี้ย่อมดีแน่นอน เพราะเมื่อเกิดปัญหาที่ตรงกับเงื่อนไขของทางร้าน ก็สามารถแก้ไข หรือ ปรับเปลี่ยนได้ทันที โดยไม่ต้องกังวลว่าจะต้องมีการเสียเงินซ้ำซ้อน ซึ่งระยะเวลาการรับประกันก็จะแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับทางร้าน
4. ตอบโจทย์การใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของขนาดที่นอน และคุณสมบัติพิเศษต่างๆ เช่น ป้องกันไรฝุ่น ที่เหมาะกับคนที่เป็นภูมิแพ้ เป็นต้น ซึ่งไม่เพียงช่วยในเรื่องของการพักผ่อนเท่านั้น แต่ยังดีต่อสุขภาพอีกด้วย
เพื่อนๆ สามารถดู เทคนิคการเลือกผ้าปูที่นอน ได้ที่นี่เลยค่ะ
สนใจรับบริการ ติดตั้งผ้าม่าน วอลล์เปเปอร์ ติดต่อวัดพื้นที่ประเมินราคาฟรี! โทร 02-750-2563
ติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวและอัพเดทผลงานการตกแต่งบ้าน แต่งคอนโด ได้ทุกวัน ที่ InfinityDesign.in.th หรืออีกหนึ่งช่องทางง่ายๆ จากทางแฟนเพจ เพียงกด ที่นี่